รายงานโดย สิรสิทธิ์ ตติยภัณฑรักษ์ [#RETAILman | #RETAILmanX]

กระทรวงมหาดไทยจัดงานเสวนาวิชาการระดับนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีภายใต้ “โครงการศึกษาและพัฒนาองค์ความรู้ผ้าย้อมครามเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล 2568” หรือ “Kraam International Symposium 2025” ผ่านแนวคิด “HANDS ACROSS CULTURE” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 นี้ ณ ห้องเอ็มสกาย (EM Skye) ชั้น 14 อาคารเอ็มทาวเวอร์ (EM Tower)ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ (EmSphere) ดิเอ็มดิสทริค ถนนสุขุมวิท (สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์) ทั้งนี้มีคุณอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน, ร่วมบรรยายพิเศษ, และร่วมรับฟังการบรรยายต่างๆ ระหว่างช่วงเวลาจัดงาน โดยมีคุณสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรม กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย, คุณอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคม สมาคมแม่บ้านมหาดไทย และประธานชมรม ชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย, คุณกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ไทยแลนด์ บริษัท เซเรนดิพิตี้ มีเดีย จำกัด, และคุณธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เข้าร่วมแถลงข่าวการจัดงาน พร้อมทั้งข้าราชการ, ดีไซเนอร์, และสื่อมวลชนร่วมรับฟังงานแถลงข่าวอย่างคับคั่ง

คุณอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เผยว่า “การจัดงาน ‘Kraam International Symposium 2025’ มีขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 นี้ ณ ห้องเอ็มสกาย ชั้น 14 อาคารเอ็มทาวเวอร์ ภายในศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ถนนสุขุมวิท โดยการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับภูมิปัญญาผ้าไทยตามแนวพระดำริ ‘ผ้าไทยใส่ให้สนุก’ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และพระองค์หญิงเสด็จไปทรงเป็นองค์ประธานเปิดงานในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 พร้อมทั้งเสด็จไปทรงร่วมบรรยายพิเศษ และเสด็จไปทรงร่วมรับฟังการบรรยายหัวข้อต่างๆ ตลอดระหว่างการจัดงาน”

“ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยตั้งใจสร้างเวทีนี้ให้เป็นจุดเชื่อมโยงมรดกหัตถศิลป์ของไทยเข้ากับบริบทของโลกปัจจุบัน ด้วยการเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าครามไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากล พร้อมทั้งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเมืองครามโลก (World Indigo City) ที่ยั่งยืน โดยกระทรวงมหาดไทยมีคำขวัญสำคัญคือ เป็น ‘ผู้บำบัดทุกข์ บำรุงสุข’ ให้กับทุกคนในประเทศด้วยองคาพยพทั้งจากส่วนกลาง, ส่วนภูมิภาค, และส่วนท้องถิ่น จึงเป็นกระทรวงที่ทำงานใกล้ชิดประชาชนในทุกเรื่อง ครอบคลุมทั้งเรื่องความมั่นคง, สังคม, และเศรษฐกิจด้วยความมุ่งหวังทำให้ประชาชนมีอาชีพ, มีรายได้, และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นความโชคดีของคนไทยทุกคน ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปรีชาชาญและทรงมีพระดำริพระราชทานให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้นำภาคีเครือข่ายทำสิ่งที่ประชาชนทำอยู่แล้วให้เกิดการพัฒนาต่อยอดขึ้น โดยทรงเล็งเห็นว่าผ้าและงานหัตถกรรมของประชาชนในหมู่บ้านต่างๆ แต่ละภูมิภาคมีลายผ้าดั้งเดิมของตนเองและเป็นพื้นเดิม จึงพระราชทานผ้าลายพระราชทานลวดลายต่างๆ เพื่อยกระดับผ้าไทยให้เป็นอัตลักษณ์ของชาติ และทรงมุ่งหมายให้ก้าวไปสู่ระดับโลก”

“พระองค์หญิงจึงเสด็จไปปฏิบัติพระกรณียกิจในทุกพื้นที่ หรือที่เรียกว่าไป Coaching พร้อมทั้งพระราชทานพระอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญความรู้วงการผ้าและหัตถกรรมด้านต่างๆ มาเป็น ‘วิชชาลัยเคลื่อนที่’ ไปสอน, เคี่ยวเข็ญ, และไปช่วยทำให้ผู้ประกอบการ OTOP และสมาชิกศิลปาชีพได้พัฒนาศักยภาพของตนเองให้สามารถก้าวทันโลกได้ เพื่อให้สินค้าและผลิตภัณฑ์เดิมที่ขายดีอยู่แล้วจะได้เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้บริโภคนานาประเทศ และนอกจากนี้ยังพระราชทานพระอนุญาตให้มีการจัดประกวดประขันลวดลายผ้าและงานหัตถกรรมทุกปี ซึ่งตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ พระดำริของพระองค์หญิงทำให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายผ้าไทยตั้งแต่ปี 2563-2568 จำนวนมากกว่า 9 หมื่นล้านบาท จึงขอให้คนไทยทุกคนได้ช่วยกันพัฒนาและต่อยอดผ้าไทยให้ยิ่งใหญ่ต่อไป”

คุณสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรม กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “การจัดงาน ‘Kraam International Symposium 2025’ ในครั้งนี้เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของกรมการพัฒนาชุมชนในการสนองงานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ควบคู่การตอบสนองภารกิจสำคัญคือ บำบัดทุกข์, บำรุงสุข, และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน โดยต่อยอดมาจากการน้อมนำแนวพระดำริ ‘ผ้าไทยใส่ให้สนุก’ รวมถึง ‘ดอนกอยโมเดล’, ‘นาหว้าโมเดล’, ‘บาติกโมเดล’, และ ‘จักสานสู่สากล’ ซึ่งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมของเยาวชน, ดีไซเนอร์, และผู้ประกอบการ OTOP รุ่นใหม่อีกด้วย”

คุณอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคม สมาคมแม่บ้านมหาดไทย และประธานชมรม ชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “คนมหาดไทยจะคุ้นชินกับคำว่า Sustainable Fashion เรียกได้ว่าเข้ากระแสเลือดกันเลย และด้วยเพราะพระบารมีและพระอัจฉริยภาพของพระองค์หญิงท่าน ทำให้คนมหาดไทยได้เป็นผู้นำในเรื่อง Sustainable มาเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับผ้าไทยใส่ให้สนุก และต่อยอดสู่พระดำริ Sustainable Fashion ด้วยทรงเล็งเห็นว่า ตอนนี้ Global Trend ที่ไม่ว่าประเทศไหนจะส่งออกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จากผ้าจะต้องมีเรื่อง Carbon Footprint เข้ามา และทุกวันนี้ผู้ประกอบการก็ไม่ได้ใช้เส้นไหมโรงงาน หันมาใช้เส้นไหมเข็นมือ ซึ่งเป็นการใช้เส้นใยธรรมชาติจนไทยถือเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์”

“การคาดหวังในงานนี้คือ ‘การสื่อสาร’ ให้คนทั่วโลกได้รับรู้และนำไปขยายผลทั่วโลก โดยแขกรับเชิญจากทั่วโลกภายในงานนี้เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการผ้า, แฟชั่น, และทุกกระบวนงานเกี่ยวกับการออกแบบตัดเย็บสินค้าแฟชั่น จะมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงานครั้งนี้ เพื่อจะได้ไปสื่อสารให้คนทั่วโลกได้รับการยืนยันว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดสากลด้านผ้าและงานหัตถกรรม”

คุณกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ไทยแลนด์ บริษัท เซเรนดิพิตี้ มีเดีย จำกัด กล่าวว่า “งานครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการจัดงานวิชาการแฟชั่นวงการครามและหัตถศิลป์หัตถกรรมระดับโลก ด้วยพระองค์หญิงทรงเป็นองค์ดีไซเนอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นและทรงเห็นว่าแฟชั่นในต่างประเทศเดินหน้าไปไกลมาก พระองค์จึงทรงคิดว่าถ้าทำให้ผ้าไทยพัฒนาไปไกลได้ ก็ต้องมีเสียงจาก Global เข้ามาช่วยด้วย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของแนวคิด ‘Hand Across Culture’ โดยจะมีผู้ประกอบการ, ศิลปิน, ผู้นำแวดวงผ้า, Fashion Leader, และ Fashion Commentator จะมาแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ต่างๆ เพื่องานนี้ขับเคลื่อนไปอย่างมีชีวิตชีวา และจะเป็นงานสำคัญที่ทำให้ผู้ร่วมงานได้เข้าใจวัฒนธรรมร่วมสมัยของวงการผ้า หัตถกรรมและคราม เพื่อจะสามารถพัฒนาขับเคลื่อนไปสู่ระดับสากลได้ โดยคนไทยจะได้มาเข้าใจภาษาแฟชั่นของทั่วโลก (Global Language) ตลอด 4 วันจัดงานนี้”

คุณธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทยและที่ปรึกษาโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” กล่าวว่า “การจัดงานนี้ได้ต้องขอบคุณโอกาสจากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า Ministry of Interior โดยคำว่า Interior คือ ภายในประเทศ และให้โอกาสทีมงานผ้าไทยใส่ให้สนุกได้สนองพระดำริเรื่องการนำ Global เข้ามา Across กับ Cultural ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดงาน ‘Kraam International Symposium 2025’ ทั้งนี้ ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้างานแล้วมากกว่า 2,000 คน และด้วยพระบารมีและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์หญิงท่าน ผู้ทรงดำรงพระองค์เป็นผู้นำเผยแพร่วัฒนธรรมไปยังต่างประเทศ ผ่านการคัดเลือกผลงานที่เป็นผลสำเร็จและให้กระทรวงมหาดไทย นำโดยกรมการพัฒนาชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อนต่อ อาทิ; ‘ดอนกอยโมเดล’, ‘นาหว้าโมเดล’ เป็นต้น”

สำหรับงานในครั้งนี้มีการบรรยายพิเศษจากผู้นำหลากหลายวงการ อาทิ;

• บรรยายพิเศษหัวข้อ “มรดกแห่งงานหัตถศิลป์” โดยภัณฑารักษ์ระดับโลก Béatrice Quette จาก Musée des Arts Décoratifs กรุงปารีส

• บรรยายพิเศษหัวข้อ “การถักทออันทรงคุณค่า” โดยภัณฑารักษ์ระดับโลก Louis Copplestone จาก Victoria and Albert Museum กรุงลอนดอน

• บรรยายพิเศษหัวข้อ “การต่อยอดภูมิปัญญาการย้อมครามแห่งญี่ปุ่น” โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการย้อมครามชั้นนำระดับเอเชีย Kenta Watanabe จาก Watanabe’s Co., Ltd. ประเทศญี่ปุ่น

โอกาสนี้ กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมงาน “Kraam International Symposium 2025” ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ทั้งการเลือกชม-เลือกซื้อผ้าและงานหัตถกรรมจากฝีมือศิลปินและคนทำผ้าย้อมครามที่สร้างสรรค์ผลงานอย่างลงตัว บริเวณโถง EM Market Hall ชั้น G พร้อมทั้งกิจกรรมวิชาการที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนิทรรศการวิชาการ, ผลงานเครื่องใช้จากผ้าสีธรรมชาติ, และเสวนา-การบรรยายพิเศษจากบรรณาธิการ-อินฟลูเอนเซอร์-นักคิด-นักออกแบบ-ดีไซเนอร์-ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผ้าครามที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ซึ่งช่วยถ่ายทอดมุมมองจากทุกมิติ และจุดประกายความคิดในการต่อยอดภูมิปัญญาพื้นถิ่นให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล บริเวณห้อง EM Skye ชั้น 14 อาคาร EM Tower

  #thailandreporter  #ข่าวสังคมบันเทิงธุรกิจไลฟ์สไตล์  #รัฐวัชร์จัดให้